วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ตอนที่ไม่รู้จักความรัก





หลังจากที่เวิ้นเว้อ จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะหันไปหยิบจับเรื่องไหนมาเขียนดี  ก็คิดขึ้นมาได้ว่าบทความต่อไปนี้ ควรจะเป็นบทความที่เกี่ยวกับความรักบ้าง อะไรบ้าง ชีวิตคนเราจะได้สดชื่น ถึงแม้มันจะเป็นอดีตมาแล้วก็ตาม เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ



ณ โรงเรียนวัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด เรากับน้องสาวเข้าโรงเรียนพร้อมกันเลยได้เรียนชั้นเดียวกัน ห้องเดียวกันมาตลอดตั้งแต่อนุบาล จน ป. 4 เราไม่ได้สอบตกซ้ำชั้นนะคะแต่เป็นเพราะน้องสาวเราเห็นเรามาโรงเรียนเลยร้องตามจะมาเรียนด้วยแม่ก็เลยให้มาเรียนพร้อมกันไปเลย หึหึ อยากบอกว่ามันเป็นปมด้อยของเราเหมือนกันนะที่เพื่อนๆ ในห้องจะถามว่าฝาแฝดหรา ทั้งๆ ที่หน้าตาเราไม่เหมือนกัน น้องสาวเราน่ารักสวยกว่าเรา เราหน้าตาบ้านๆ ธรรมดาๆ ฟันเหยินอีกต่างหาก แต่ช่างเถอะ เอาเป็นว่าคนจีบเยอะพอกะน้องสาวละกัน  อย่าเพิ่งหมันไส้กันนะคะ คนเราก็ต้องยกหางตัวเองบ้างเป็นธรรมดาพองามไม่ถือว่าน่าเกลียดเนอะ  เข้าเรื่องต่อกันดีกว่านะ ป.4 หลายคนอาจสงสัยว่ารู้จักแล้วหราว่าความรักเป็นอย่างไร เราบอกเลยว่าเราไม่รู้จัก เราก็นั่งเรียนหนังสือ นั่งเล่นกะเพื่อนผู้หญิงตามปกติ ไม่ได้คิดอะไรแต่เวลาขี่จักรยานมาโรงเรียนกับตอนกลับบ้านเราจะผลัดกันขี่กะน้องสาว เพราะไกลพอประมาณ เราจะรู้สึกรำคาญพวกเด็กผู้ชายที่คอยตามขี่ประกบหน้าหลัง แซวนู่นนี่นั่นอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งเราไม่ได้คิดว่าถูกจีบหรืออะไรเลยนะแค่รู้สึกว่าจะขี่ตามทำไมแค่นั้น 


และก็มาถึงวันนึงในขณะกำลังนั่งเรียนอยู่ ตอนนั้นคุณครูให้จัดโต๊ะเป็นกลุ่มๆ ละ 10 คน และนั่งเรียนเป็นกลุ่ม โดยเราและเพื่อนสนิทของเรานั่งหันหน้าเข้ามาในห้องหันหลังชนกับกำแพงห้อง ในขณะที่เรากำลังตั้งใจเรียนอยู่นั้นเอง เพื่อนก็ได้กระซิบข้างหูเราว่า “มีคนแอบมอง” เราก็หันซ้ายหันขวาและหันไปถามเพื่อนว่า “ใครอ่ะไม่เห็นมีเลย” เพื่อนก็หันมาบอกว่ามองไปทางนั้นสิ เราก็หันไปตามทางที่เพื่อนบอก ทันใดนั้นเองก็ได้สบตากะเอ เด็กผู้ชายที่เรียนห้องเดียวกัน เค้านั่งหันหลังไปทางหลังห้องหันหน้าเข้ากระดานดำแต่สายตาเค้ามองมาที่เรา เมื่อตาสบตาเราก็ตกใจสะดุ้งเลยละแล้วก็รีบหันกลับมา ทีนี้เองทำตัวไม่ถูกเลยจากที่นั่งเกาหัวเกาหูแคะขี้มูกอยู่เป็นอันสั่นจ้ะ ทั้งๆที่ไม่ได้รู้ว่าความรู้สึกนั้นเรียกว่าอะไรแต่เราคิดว่าเราคงอายอ่ะ  เราเป็นเด็กขี้อายไม่กล้าแสดงออก หลังจากนั้นเราก็แอบหันไปมองเค้าว่าเค้ายังมองเราอยู่รึป่าว ปรากฎว่าเค้ามองเราอยู่ตลอดเวลา อายสิคะเอาหนังสือปิดหน้าบ้างขีดเขียนบนหนังสือเละเทะไปหมด แล้วเสียงอ๊อดก็ดังขึ้นหมดคาบเรียนวิชานี้แล้ว ซึ่งเราเรียนไม่รู้เรื่องเลยคะมัวแต่อาย พอเลิกเรียนต่างคนก็ต่างเดินออกจากห้องกัน เราก็เดินกะเพื่อนสนิทตามเคย เพื่อนสนิทเราชื่อ เก๋ ระหว่างที่เดินกันอยู่นอกห้องก็มีคนขว้างกระดาษขยำๆ มาใส่เรา เราก็หยิบไว้ได้ทันก็แกะออกดู มีข้อความเขียนว่า "ชอบนะ" คืออะไรอ่ะ งง อาย เขิล โดนเพื่อนล้อ เราทำตัวไม่ถูกละทีนี้ มีอยู่ครั้งนึงเดินมาเจอกันพอดี ต่างคนต่างตกใจรีบเดินออกจากกันเหมือนเค้าก็อายเรา แต่เค้าจะจีบเรา เค้าขี่จักรยานไปกะกลุ่มเพื่อนเค้าไปส่งเราที่บ้านเสร็จทั้งๆที่เราไม่เคยคุยอะไรกับเค้าเลยนะ แต่เรารู้ว่าเค้ามาส่งเราแระ วันเสาร์อาทิตย์ยังขี่จักรยานมากับเพื่อนหน้าบ้านเรามาส่งเสียงดังยกล้อกันหน้าบ้าน เราได้แต่แอบอยู่ในบ้านไม่กล้าออกจากบ้านเลย เราเคยได้คุยกับเค้าแค่สองสามคำเองมั้ง ต่างคนต่างอายกันนี่นะ ถามว่าเราชอบเค้าไหมเราเฉยๆ เรายังเด็กตอนนั้นเราไม่รู้จักความรักชอบ หรืออะไร แต่เราอาย 




และวันนี้พ่อบอกให้พวกเราเก็บของย้ายบ้านย้ายโรงเรียน บอกว่าพรุ่งนี้จะต้องย้ายแล้วนะ เราก็ตกใจยังไม่ได้บอกคุณครูที่โรงเรียนเลยนะพ่อ พ่อบอกเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยแวะไปบอก เรารู้สึกเศร้าที่ต้องจากเพื่อนสนิทของเราไป แต่กับเอ เราก็เศร้าเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง แล้วก็ถึงเช้าวันรุ่งขึ้น พ่อขับรถพาเราสามคนพี่น้องไปบอกลาเพื่อนๆ คุณครูที่โรงเรียน บรรยากาศเศร้ามาก ได้แต่ฝืนไม่ให้ร้องไห้เพราะอายคนอื่น ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยบอกลาเพื่อนๆ คุณครูเสร็จก็กลับมาขึ้นรถและพ่อก็ขับรถออกมาจากโรงเรียน โดยมีเพื่อนๆ ยืนส่ง
หลังจากที่เราย้ายมาอยู่โรงเรียนใหม่ในตัวจังหวัด เอขอที่อยู่เราจากเพื่อนสนิทของเราแล้วส่งจดหมายมาหาเราหลายฉบับแต่เราไม่เคยตอบกลับเลย วันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ก็ส่งการ์ดอวยพรมาให้ เราอ่านแล้วเราก็ไม่รู้สึกอะไรคือเรายังเด็กไม่รู้ว่าคำว่า “รักนะ” ที่เค้าเขียนมาแปลว่าอะไร แล้วเราต้องทำยังไง เราได้แต่เฉยไม่เคยตอบจดหมายไปเลย แล้วเราก็มีเพื่อนใหม่ มีคนใหม่ๆ มาจีบอีกมากมายจนเราลืมเธอไปเลยเอ  ระยะเวลาผ่านไปตั้งแต่เราอยู่ ป. 4 จนเราเจอเพื่อนที่เคยเรียนร่วมห้องเดียวกับเราตอนที่เราเรียนด้วยกัน แต่ตอนนี้เราอยู่ ปวช.2 แล้วและเพื่อนคนนั้นเราได้เจอกันโดยบังเอิญและตอนนั้นเรามีแฟนแล้ว เรารู้จักความรักแล้ว เพื่อนถามเราว่า “จำเอได้หรือป่าว” เราถามว่าใครอ่ะ เพื่อนก็บอกว่าคนที่จีบแกตอนเรียนไง เราก็นึกอยู่นานแล้วก็จำได้ เพื่อนบอกว่ามันยังรอแกอยู่เลยนะ เราตกใจมาก แต่ด้วยความเป็นเด็กอีกละ แล้วก็มีแฟนแล้วเลยไม่ได้คิดอะไร ฝากเพื่อนไปบอกเอว่า ไม่ต้องรอเราแล้วเรามีแฟนแล้วนะ บอกโดยไม่ได้คิดว่าเอจะรู้สึกอย่างไร วันนี้เราผ่านเรื่องราวอะไรมามากมายในชีวิต มันทำให้เรารู้สึกอยากย้อนเวลากลับไปหาผู้ชายคนนี้  แล้วเราก็ค้นหาชื่อของเอในเฟสบุ้ค พบด้วยเราตื่นเต้นนะที่กำลังส่องเฟสบุ้คของผู้ชายที่เค้ามีเราเป็นรักครั้งแรกและรักเราคนเดียวมานานมากเป็นสิบกว่าปี แล้วเราก็พบว่าเค้าได้แต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้ว สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ปิดเฟสบุ้คของเค้าซะ และอยู่ตามลำพังคนเดียวของเราแบบนี้ต่อไป เราเพิ่งรู้สึกว่าเราใจร้ายกับเค้ามากๆ แต่ถ้าเป็นคู่กันสุดท้ายก็ต้องได้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันแปลว่าไม่ใช่คู่กัน

สุดท้าย ถ้าถามว่าอยากกลับไปเริ่มต้นใหม่ไหม เราตอบเลยว่าไม่อยาก เพราะเรามีผู้ชายที่เค้ารักเรามากอีกหนึ่งคนแต่เค้าก็ได้จากเราไปแล้ว ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทุกช่วงชีวิตมีคนมากมายที่มีทั้งดีและร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคนๆนึง แต่ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เหลือมันก็เหลือเพียงแค่ ความทรงจำ อยากฝากความทรงจำที่ดีก็ทำสิ่งที่ดีๆ ต่อกัน แต่ถ้าอยากฝากความทรงจำที่แย่ๆ ก็ทำสิ่งแย่ๆ ต่อกัน ตัวคุณเองเท่านั้นเป็นคนกำหนด 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น