หลังจากที่เวิ้นเว้อ
จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะหันไปหยิบจับเรื่องไหนมาเขียนดี ก็คิดขึ้นมาได้ว่าบทความต่อไปนี้ ควรจะเป็นบทความที่เกี่ยวกับความรักบ้าง
อะไรบ้าง ชีวิตคนเราจะได้สดชื่น ถึงแม้มันจะเป็นอดีตมาแล้วก็ตาม
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ
ณ โรงเรียนวัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด
เรากับน้องสาวเข้าโรงเรียนพร้อมกันเลยได้เรียนชั้นเดียวกัน
ห้องเดียวกันมาตลอดตั้งแต่อนุบาล จน ป. 4 เราไม่ได้สอบตกซ้ำชั้นนะคะแต่เป็นเพราะน้องสาวเราเห็นเรามาโรงเรียนเลยร้องตามจะมาเรียนด้วยแม่ก็เลยให้มาเรียนพร้อมกันไปเลย
หึหึ อยากบอกว่ามันเป็นปมด้อยของเราเหมือนกันนะที่เพื่อนๆ ในห้องจะถามว่าฝาแฝดหรา
ทั้งๆ ที่หน้าตาเราไม่เหมือนกัน น้องสาวเราน่ารักสวยกว่าเรา
เราหน้าตาบ้านๆ ธรรมดาๆ ฟันเหยินอีกต่างหาก แต่ช่างเถอะ
เอาเป็นว่าคนจีบเยอะพอกะน้องสาวละกัน
อย่าเพิ่งหมันไส้กันนะคะ
คนเราก็ต้องยกหางตัวเองบ้างเป็นธรรมดาพองามไม่ถือว่าน่าเกลียดเนอะ เข้าเรื่องต่อกันดีกว่านะ ป.4 หลายคนอาจสงสัยว่ารู้จักแล้วหราว่าความรักเป็นอย่างไร
เราบอกเลยว่าเราไม่รู้จัก เราก็นั่งเรียนหนังสือ นั่งเล่นกะเพื่อนผู้หญิงตามปกติ
ไม่ได้คิดอะไรแต่เวลาขี่จักรยานมาโรงเรียนกับตอนกลับบ้านเราจะผลัดกันขี่กะน้องสาว
เพราะไกลพอประมาณ เราจะรู้สึกรำคาญพวกเด็กผู้ชายที่คอยตามขี่ประกบหน้าหลัง
แซวนู่นนี่นั่นอะไรก็ไม่รู้
ซึ่งเราไม่ได้คิดว่าถูกจีบหรืออะไรเลยนะแค่รู้สึกว่าจะขี่ตามทำไมแค่นั้น
และก็มาถึงวันนึงในขณะกำลังนั่งเรียนอยู่
ตอนนั้นคุณครูให้จัดโต๊ะเป็นกลุ่มๆ ละ 10 คน
และนั่งเรียนเป็นกลุ่ม โดยเราและเพื่อนสนิทของเรานั่งหันหน้าเข้ามาในห้องหันหลังชนกับกำแพงห้อง
ในขณะที่เรากำลังตั้งใจเรียนอยู่นั้นเอง เพื่อนก็ได้กระซิบข้างหูเราว่า “มีคนแอบมอง” เราก็หันซ้ายหันขวาและหันไปถามเพื่อนว่า “ใครอ่ะไม่เห็นมีเลย”
เพื่อนก็หันมาบอกว่ามองไปทางนั้นสิ เราก็หันไปตามทางที่เพื่อนบอก
ทันใดนั้นเองก็ได้สบตากะเอ เด็กผู้ชายที่เรียนห้องเดียวกัน
เค้านั่งหันหลังไปทางหลังห้องหันหน้าเข้ากระดานดำแต่สายตาเค้ามองมาที่เรา
เมื่อตาสบตาเราก็ตกใจสะดุ้งเลยละแล้วก็รีบหันกลับมา
ทีนี้เองทำตัวไม่ถูกเลยจากที่นั่งเกาหัวเกาหูแคะขี้มูกอยู่เป็นอันสั่นจ้ะ
ทั้งๆที่ไม่ได้รู้ว่าความรู้สึกนั้นเรียกว่าอะไรแต่เราคิดว่าเราคงอายอ่ะ เราเป็นเด็กขี้อายไม่กล้าแสดงออก
หลังจากนั้นเราก็แอบหันไปมองเค้าว่าเค้ายังมองเราอยู่รึป่าว
ปรากฎว่าเค้ามองเราอยู่ตลอดเวลา
อายสิคะเอาหนังสือปิดหน้าบ้างขีดเขียนบนหนังสือเละเทะไปหมด
แล้วเสียงอ๊อดก็ดังขึ้นหมดคาบเรียนวิชานี้แล้ว ซึ่งเราเรียนไม่รู้เรื่องเลยคะมัวแต่อาย
พอเลิกเรียนต่างคนก็ต่างเดินออกจากห้องกัน เราก็เดินกะเพื่อนสนิทตามเคย
เพื่อนสนิทเราชื่อ เก๋ ระหว่างที่เดินกันอยู่นอกห้องก็มีคนขว้างกระดาษขยำๆ มาใส่เรา
เราก็หยิบไว้ได้ทันก็แกะออกดู มีข้อความเขียนว่า "ชอบนะ" คืออะไรอ่ะ งง อาย เขิล
โดนเพื่อนล้อ เราทำตัวไม่ถูกละทีนี้ มีอยู่ครั้งนึงเดินมาเจอกันพอดี
ต่างคนต่างตกใจรีบเดินออกจากกันเหมือนเค้าก็อายเรา แต่เค้าจะจีบเรา เค้าขี่จักรยานไปกะกลุ่มเพื่อนเค้าไปส่งเราที่บ้านเสร็จทั้งๆที่เราไม่เคยคุยอะไรกับเค้าเลยนะ
แต่เรารู้ว่าเค้ามาส่งเราแระ
วันเสาร์อาทิตย์ยังขี่จักรยานมากับเพื่อนหน้าบ้านเรามาส่งเสียงดังยกล้อกันหน้าบ้าน
เราได้แต่แอบอยู่ในบ้านไม่กล้าออกจากบ้านเลย
เราเคยได้คุยกับเค้าแค่สองสามคำเองมั้ง ต่างคนต่างอายกันนี่นะ
ถามว่าเราชอบเค้าไหมเราเฉยๆ เรายังเด็กตอนนั้นเราไม่รู้จักความรักชอบ หรืออะไร
แต่เราอาย
และวันนี้พ่อบอกให้พวกเราเก็บของย้ายบ้านย้ายโรงเรียน
บอกว่าพรุ่งนี้จะต้องย้ายแล้วนะ เราก็ตกใจยังไม่ได้บอกคุณครูที่โรงเรียนเลยนะพ่อ
พ่อบอกเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยแวะไปบอก เรารู้สึกเศร้าที่ต้องจากเพื่อนสนิทของเราไป
แต่กับเอ เราก็เศร้าเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง แล้วก็ถึงเช้าวันรุ่งขึ้น
พ่อขับรถพาเราสามคนพี่น้องไปบอกลาเพื่อนๆ คุณครูที่โรงเรียน บรรยากาศเศร้ามาก
ได้แต่ฝืนไม่ให้ร้องไห้เพราะอายคนอื่น ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยบอกลาเพื่อนๆ
คุณครูเสร็จก็กลับมาขึ้นรถและพ่อก็ขับรถออกมาจากโรงเรียน โดยมีเพื่อนๆ ยืนส่ง
หลังจากที่เราย้ายมาอยู่โรงเรียนใหม่ในตัวจังหวัด
เอขอที่อยู่เราจากเพื่อนสนิทของเราแล้วส่งจดหมายมาหาเราหลายฉบับแต่เราไม่เคยตอบกลับเลย
วันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ก็ส่งการ์ดอวยพรมาให้ เราอ่านแล้วเราก็ไม่รู้สึกอะไรคือเรายังเด็กไม่รู้ว่าคำว่า
“รักนะ” ที่เค้าเขียนมาแปลว่าอะไร แล้วเราต้องทำยังไง
เราได้แต่เฉยไม่เคยตอบจดหมายไปเลย แล้วเราก็มีเพื่อนใหม่ มีคนใหม่ๆ
มาจีบอีกมากมายจนเราลืมเธอไปเลยเอ ระยะเวลาผ่านไปตั้งแต่เราอยู่ ป. 4
จนเราเจอเพื่อนที่เคยเรียนร่วมห้องเดียวกับเราตอนที่เราเรียนด้วยกัน แต่ตอนนี้เราอยู่ ปวช.2 แล้วและเพื่อนคนนั้นเราได้เจอกันโดยบังเอิญและตอนนั้นเรามีแฟนแล้ว
เรารู้จักความรักแล้ว เพื่อนถามเราว่า “จำเอได้หรือป่าว” เราถามว่าใครอ่ะ
เพื่อนก็บอกว่าคนที่จีบแกตอนเรียนไง เราก็นึกอยู่นานแล้วก็จำได้ เพื่อนบอกว่ามันยังรอแกอยู่เลยนะ
เราตกใจมาก แต่ด้วยความเป็นเด็กอีกละ แล้วก็มีแฟนแล้วเลยไม่ได้คิดอะไร
ฝากเพื่อนไปบอกเอว่า ไม่ต้องรอเราแล้วเรามีแฟนแล้วนะ บอกโดยไม่ได้คิดว่าเอจะรู้สึกอย่างไร
วันนี้เราผ่านเรื่องราวอะไรมามากมายในชีวิต
มันทำให้เรารู้สึกอยากย้อนเวลากลับไปหาผู้ชายคนนี้ แล้วเราก็ค้นหาชื่อของเอในเฟสบุ้ค
พบด้วยเราตื่นเต้นนะที่กำลังส่องเฟสบุ้คของผู้ชายที่เค้ามีเราเป็นรักครั้งแรกและรักเราคนเดียวมานานมากเป็นสิบกว่าปี
แล้วเราก็พบว่าเค้าได้แต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้ว สิ่งที่เราทำได้ก็คือ
ปิดเฟสบุ้คของเค้าซะ และอยู่ตามลำพังคนเดียวของเราแบบนี้ต่อไป เราเพิ่งรู้สึกว่าเราใจร้ายกับเค้ามากๆ
แต่ถ้าเป็นคู่กันสุดท้ายก็ต้องได้อยู่ด้วยกัน
แต่ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันแปลว่าไม่ใช่คู่กัน
สุดท้าย ถ้าถามว่าอยากกลับไปเริ่มต้นใหม่ไหม
เราตอบเลยว่าไม่อยาก
เพราะเรามีผู้ชายที่เค้ารักเรามากอีกหนึ่งคนแต่เค้าก็ได้จากเราไปแล้ว ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทุกช่วงชีวิตมีคนมากมายที่มีทั้งดีและร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคนๆนึง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เหลือมันก็เหลือเพียงแค่ ความทรงจำ
อยากฝากความทรงจำที่ดีก็ทำสิ่งที่ดีๆ ต่อกัน แต่ถ้าอยากฝากความทรงจำที่แย่ๆ
ก็ทำสิ่งแย่ๆ ต่อกัน ตัวคุณเองเท่านั้นเป็นคนกำหนด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น