วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ความผิดของอัยการหรือศาล





วันศุกร์ที่ผ่านมาได้ไปฟังผลการพิจารณาคดีความของเรา ศาลแจ้งว่าเราไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องเอาเงินชดเชยจากการบาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้ได้ หากต้องการให้ไปฟ้องร้องเอาเป็นคดีแพ่งต่อไป ซึ่งถ้าต้องฟ้องร้องคดีแพ่งเราต้องเสียค่าธรรมเนียม ค่าทนาย เอง ซึ่งก็คงเป็นจำนวนเงินไม่ใช่น้อย ทั้งๆที่ สามารถฟ้องร้องในคดีนี้ได้โดยเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตามมาตรา 44/1 แต่ก็เข้าใจว่าทำไม ซึ่งศาลไม่ได้บอก แต่เรารู้ด้วยตนเองเพราะคุมประพฤติที่เรียกเราไปสอบปากคำเพิ่มเติมได้บอกเราแล้วว่า คำฟ้องคดีนี้อัยการเขียนว่า ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ไม่ได้กล่าวถึงผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งๆที่หมายจับจากตำรวจ ก็ได้เขียนไว้ชัดเจนแล้วว่า ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ ฉะนั้น เราจึงสรุปเองว่าเป็นเพราะอัยการที่เป็นคนส่งฟ้องคดีนี้ ทำเราตกหล่นจากคดี เพียงเพื่อต้องการให้คดีจบไว เราคิดเองนะ เพราะถ้าเค้าส่งฟ้องเช่นนั้น ศาลตัดสินทุกอย่างจบ คนผิดจ่ายเงินรอลงอาญา คนผิดก็ยังอยู่ในสังคมต่อไป  ศาลก็จะตัดสินโดยที่เราไม่รู้เรื่องว่าคดีนี้จับคนกระทำความผิดได้เมื่อไร เพราะอัยการไม่มีหนังสือแจ้งให้กับตัวเราผู้เสียหายกับบิดาของผู้ตายได้ทราบเลย ที่เรารู้เรืองเพราะศาลแจ้งไปที่คุมประพฤติให้ติดตามตัวเรากับบิดาของผู้ตายมาสอบปากคำเพิ่มเติมว่าเค้าได้เยียวยาอะไรบ้างหรือป่าวหลังจากเกิดเหตุ และต้องขอขอบคุณคุมประพฤติที่ได้แนะนำให้มาทำคำร้องขอให้จำเลยจ่ายเงินชดเชยเป็นค่าขาดผู้อุปการะให้กับบิดากับภรรยาของผู้ตาย ในส่วนของค่าปลงศพ และค่าขาดไร้อุปการะ ซึ่งเราต้องไปติดตามดำเนินเรื่องเองหมดทุกอย่าง พอดำเนินเรื่องไปแล้ว ก็พบว่าตนเองร้องขอเงินชดเชยจากการได้รับบาดเจ็บไม่ได้ ก็รู้สึกโกรธนะ ไม่รู้ว่าเป็นความผิดของใคร แต่เท่าที่รู้ ความผิด 2 ข้อ  
คือ 1. ไม่มีหนังสือแจ้งให้ผู้เสียหายรับรู้ว่าจำเลยถูกจับตัวได้แล้ว จนศาลเกือบจะตัดสินคดีไปแล้ว 

      2. อัยการเขียนคำฟ้องคดีไม่ครบถ้วนตามหมายจับของตำรวจ ทำให้เราไม่สามารถเรียกร้องเงินชดเชยที่ขาเราเกือบขาดได้ 

ความผิด 2 ข้อนี้เป็นความผิดของศาลรึป่าว หรือของอัยการที่ทำเรื่องส่งฟ้องศาล เรารู้สึกแย่กับกระบวนการยุติธรรมมากๆ จากเรื่องนี้ แต่ยังไม่พอเมื่อเข้ารับฟังคำตัดสินเราก็ต้องผิดหวังมากกว่าเดิมอีก 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น